KINTSUGI Part 1
KINTSUGI Part 1
Embrace your imperfections and find happiness the Japanese way
สรุปคร่าวๆ มาจากหนังสือคินสึงิ ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต มีทั้งหมดสามภาค
ภาคหนึ่งและสองจะเป็นรายละเอียด ส่วนภาคสามจะเป็นเรื่องของการยกตัวอย่างเคสจากเรื่องหลายๆ แบบ
ภาคแรก
+ มีชีวิตอยู่กับเรื่องเลวร้าย
อย่ามัวห่วงว่าตัวเองจะมีความสุขหรือเปล่า แต่ให้โฟกัสไปที่ความเข้มแข็ง
รู้และยอมรับความจริงของชีวิตว่า เรื่องเลวร้ายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต อย่าหลีกหนี อย่าเพิกเฉย และอย่าปฏิเสธ
เราต้องฝึกฝนตัวเองให้มีความสามารถที่จะรับมือและกอบกู้ตัวเองกลับคืนมาหลังเผชิญเรื่องเลวร้ายให้ได้
ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงเรื่องเลวร้ายเป็นความท้าทาย คุณก็จะรับมือมันได้ง่ายขึ้นเยอะ
เราทุกคนรู้สึกทุกข์แตกต่างกันไป
คนที่โวยวายที่สุด อาจไม่ใช่คนที่ทุกข์ที่สุด อย่าสับสนระหว่างความเจ็บปวดกับการแสดงออกถึงความเจ็บปวด
+ เจ็บตรงไหนกันแน่ ?
สรุปแหล่งที่มาของความเจ็บปวด
+ ทำไมถึงต้องเป็นเรา?
เมื่อเราพูดถึงความเสี่ยง มันไม่ใช่ "ความเป็นไปได้ "ที่จะเกิด แต่หมายถึงการประเมิน "ความน่าจะเป็น" ที่จะเกิด
คุณไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดความเสี่ยงอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้น ก็จงใช้เวลาปัจจุบันให้คุ้มค่า ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่
สนุกกับปัจจุบัน เพราะอนาคตนั้นไม่แน่นอน และอยู่เหนือการควบคุม
เรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและตัดสินใจไปในทางที่คุณต้องการจริงๆ
ดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบ ไม่ใช่อย่างหวาดกลัว
ระวังวิธีที่คุณจะตีความเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าคุณไม่มีคำอธิบายใดๆ ที่จะทำให้คุณสบายใจได้ ก็อย่าไปกุคำอธิบายขึ้นมาเอง
คุณต้องวิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับความหมายของปมที่มันทิ้งไว้ให้
+ เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้าย
ความคาดหวังต่อความสามารถของตัวเราเองเป็นตัวกำหนดการประเมินสถานการณ์ของเรา
ความเจ็บปวดทางอารมณ์นั้นผันแปรไปตามความเข้มข้น ความยาวนาน การคาดคะเนล่วงหน้า และผลกระทบต่อเรา สถานการณ์ที่เลวร้ายแบบเดียวกัน จะส่งผลที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แม้กระทั่งคนๆ เดียวกัน ก็ได้รับผลกระทบแตกต่างออกไปเมื่อช่วงวัยเปลี่ยนไป
แม้จะประสบกับความทุกข์ คุณก็สามารถชดเชยมันด้วยการกระทำที่ตั้งมั่น
วิธีการรับมือ และการเข้าปะทะกับปัญหา ส่งผลต่อความสำเร็จของเรา
เปลี่ยนความวิตกกังวลไปเป็นการลงมือทำ
ตีความสถานการณ์เลวร้ายเสียใหม่ และเรียนรู้จากมัน
+ สร้างชีวิตใหม่
มีความเป็นไปได้ที่จะบาดเจ็บ แต่ไม่ต้องห่วง ร่างกายของเรารู้ตัวอยู่แล้วและมันมีอุปกรณ์พร้อมที่จะเยียวยา ทั้งบาดแผลบนร่างกาย และบาดแผลในจิตใจ
วิธีการซ่อมแซมสิ่งแตกหักและสร้างความแข็งแกร่ง เป็นเรื่องที่สามารถเรียนรู้กันได้
อย่าจมจ่อมอยู่กับความเจ็บปวด ยอมให้จิตใจของคุณเปิดระบบการซ่อมแซมเสียที อย่าปิดกั้นตัวเองด้วยความเห็นผิด และความเชื่อผิด
Embrace your imperfections and find happiness the Japanese way
สรุปคร่าวๆ มาจากหนังสือคินสึงิ ความงามของบาดแผลแห่งชีวิต มีทั้งหมดสามภาค
ภาคหนึ่งและสองจะเป็นรายละเอียด ส่วนภาคสามจะเป็นเรื่องของการยกตัวอย่างเคสจากเรื่องหลายๆ แบบ
ภาคแรก
+ มีชีวิตอยู่กับเรื่องเลวร้าย
อย่ามัวห่วงว่าตัวเองจะมีความสุขหรือเปล่า แต่ให้โฟกัสไปที่ความเข้มแข็ง
รู้และยอมรับความจริงของชีวิตว่า เรื่องเลวร้ายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต อย่าหลีกหนี อย่าเพิกเฉย และอย่าปฏิเสธ
เราต้องฝึกฝนตัวเองให้มีความสามารถที่จะรับมือและกอบกู้ตัวเองกลับคืนมาหลังเผชิญเรื่องเลวร้ายให้ได้
ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงเรื่องเลวร้ายเป็นความท้าทาย คุณก็จะรับมือมันได้ง่ายขึ้นเยอะ
เราทุกคนรู้สึกทุกข์แตกต่างกันไป
คนที่โวยวายที่สุด อาจไม่ใช่คนที่ทุกข์ที่สุด อย่าสับสนระหว่างความเจ็บปวดกับการแสดงออกถึงความเจ็บปวด
+ เจ็บตรงไหนกันแน่ ?
สรุปแหล่งที่มาของความเจ็บปวด
ความเข้มแข็งทางอารมณ์
- เรื่องเลวร้าย
- ความสับสน
- ความผิดหวัง
- ความเปลี่ยนแปลงโดยไม่คาดหมาย
- เห็นผิด
- คิดผิด
- ความจริง
- จินตนาการ
- ความกลัว
- คาดการณ์
- เชื่อมโยงอารมณ์เข้ากับชีวิต
- ตีความสภาวะทางอารมณ์ได้อย่างถูกต้อง
- กำหนดชื่อเรียกให้กับอารมณ์ของคุณ
- เรียนรู้ที่จะเข้าใจสภาวะทางอารมณ์ของผู้คนรอบตัว
- จัดการกับสารพัดอารมณ์ และการแสดงออกของมัน
- มีความมานะอุตสาหะ เพื่อไปถึงจุดมุ่งหมาย
- จัดการเรื่องเลวร้าย
- สร้างความสมดุลให้กับความเคารพในตนเอง
- ไม่พึ่งพิงแรงจูงใจจากภายนอก
- มีความรับผิดชอบ
- คิดบวก
- ตัดสินใจเลือกทางเดินด้วยตัวเอง
- เลือกสานสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ
- พัฒนาความสามารถในการสื่อสารให้ดีขึ้น
- ให้ความร่วมมือกับคนอื่น เสริมสร้างความรัก ความเมตตา
- จัดการกับความขัดแย้ง
- ดำเนินชีวิตไปในทางที่มีเป้าหมายเป็นที่ตั้ง และตัดสินใจให้สอดคล้องกับเป้าหมายนั้น
- กล้าขอความช่วยเหลือเมื่อต้องการ
- สนุกกับทุกโอกาสที่เกิดขึ้นในชีวิต
การจัดการความเจ็บปวดอย่างเหมาะสม ทำให้เราเติบโต
ขอบคุณความเจ็บปวดที่ทำให้เราพยากรณ์และหลีกเลี่ยงความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
จัดการกับความคาดหวังในชีวิตคุณ
วิเคราะห์ดูว่าคุณกำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ลองสำรวจความเป็นจริงสักครั้ง
ยอมรับว่าชีวิตคือความเปลี่ยนแปลง ซึ่งคุณต้องเตรียมตัวรับมือ
หยุดวิตกกังวล และเปลี่ยนความวิตกกังวลให้กลายเป็นการลงมือทำ
อย่าสับสนระหว่างความเป็นไปได้ และความน่าจะเป็น
สะกัดกลั้นจินตนาการไว้บ้าง และนำออกมาใช้ในทางสร้างสรรค์
อย่าคาดการณ์ไปไกลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด
ขอบคุณความเจ็บปวดที่ทำให้เราพยากรณ์และหลีกเลี่ยงความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
จัดการกับความคาดหวังในชีวิตคุณ
วิเคราะห์ดูว่าคุณกำลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ลองสำรวจความเป็นจริงสักครั้ง
ยอมรับว่าชีวิตคือความเปลี่ยนแปลง ซึ่งคุณต้องเตรียมตัวรับมือ
หยุดวิตกกังวล และเปลี่ยนความวิตกกังวลให้กลายเป็นการลงมือทำ
อย่าสับสนระหว่างความเป็นไปได้ และความน่าจะเป็น
สะกัดกลั้นจินตนาการไว้บ้าง และนำออกมาใช้ในทางสร้างสรรค์
อย่าคาดการณ์ไปไกลกับสิ่งที่ยังไม่เกิด
+ ทำไมถึงต้องเป็นเรา?
เมื่อเราพูดถึงความเสี่ยง มันไม่ใช่ "ความเป็นไปได้ "ที่จะเกิด แต่หมายถึงการประเมิน "ความน่าจะเป็น" ที่จะเกิด
คุณไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดความเสี่ยงอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้น ก็จงใช้เวลาปัจจุบันให้คุ้มค่า ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่
สนุกกับปัจจุบัน เพราะอนาคตนั้นไม่แน่นอน และอยู่เหนือการควบคุม
เรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและตัดสินใจไปในทางที่คุณต้องการจริงๆ
ดำเนินชีวิตอย่างรอบคอบ ไม่ใช่อย่างหวาดกลัว
ระวังวิธีที่คุณจะตีความเรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าคุณไม่มีคำอธิบายใดๆ ที่จะทำให้คุณสบายใจได้ ก็อย่าไปกุคำอธิบายขึ้นมาเอง
คุณต้องวิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับความหมายของปมที่มันทิ้งไว้ให้
+ เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้าย
ความคาดหวังต่อความสามารถของตัวเราเองเป็นตัวกำหนดการประเมินสถานการณ์ของเรา
ความเจ็บปวดทางอารมณ์นั้นผันแปรไปตามความเข้มข้น ความยาวนาน การคาดคะเนล่วงหน้า และผลกระทบต่อเรา สถานการณ์ที่เลวร้ายแบบเดียวกัน จะส่งผลที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แม้กระทั่งคนๆ เดียวกัน ก็ได้รับผลกระทบแตกต่างออกไปเมื่อช่วงวัยเปลี่ยนไป
แม้จะประสบกับความทุกข์ คุณก็สามารถชดเชยมันด้วยการกระทำที่ตั้งมั่น
วิธีการรับมือ และการเข้าปะทะกับปัญหา ส่งผลต่อความสำเร็จของเรา
เปลี่ยนความวิตกกังวลไปเป็นการลงมือทำ
ตีความสถานการณ์เลวร้ายเสียใหม่ และเรียนรู้จากมัน
+ สร้างชีวิตใหม่
มีความเป็นไปได้ที่จะบาดเจ็บ แต่ไม่ต้องห่วง ร่างกายของเรารู้ตัวอยู่แล้วและมันมีอุปกรณ์พร้อมที่จะเยียวยา ทั้งบาดแผลบนร่างกาย และบาดแผลในจิตใจ
วิธีการซ่อมแซมสิ่งแตกหักและสร้างความแข็งแกร่ง เป็นเรื่องที่สามารถเรียนรู้กันได้
อย่าจมจ่อมอยู่กับความเจ็บปวด ยอมให้จิตใจของคุณเปิดระบบการซ่อมแซมเสียที อย่าปิดกั้นตัวเองด้วยความเห็นผิด และความเชื่อผิด