KINTSUGI Part 2
KINTSUGI Part 2
+ KINTSUGI ศิลปะในการซ่อมแซมชีวิต
อย่ารอไปจนถึงจุดต่ำสุด
อย่าจมจ่อมอยู่กับความเจ็บปวด
คิดให้ต่าง
+ กอบเก็บจากเศษซาก
อิคิไกของคุณคืออะไร?
ค้นหาอิคิไก
ก้มเก็บชิ้นส่วนทั้งหมดขึ้นมาเพื่อที่เราจะได้ทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกอย่างไร คิดอย่างไร นี่คือก้าวแรกเพื่อมองสถานการณ์อย่างชัดเจน ทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจที่เกิดขึ้นกับคุณอันเนื่องมาจากเหตุการณ์นั้น
การจะก้มลงไปเก็บนั้น เราไม่จำเป็นต้องรอจนกระทั้งทุกข์จนทนไม่ได้ ถ้าคุณอยากรู้สึกดีขึ้นทันที ก็ต้องลงมือทำบางสิ่งบางอย่างทันที
เพียงแค่ข้อเท็จจริงที่ว่าชีวิตคุณจะดีขึ้นในวันข้างหน้าก็เป็นเหตุผลที่ดีพอแล้วสำหรับการซ่อมแซมชีวิตในวันนี้
การจบปัญหาหนึ่งไม่ได้หมายความว่าความทุกข์ของคุณจะจบลงด้วย ดังนั้น เราต้องจัดการปัญหาอย่างต่อเนื่อง
+ วิเคราะห์สถานการณ์
วิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยไม่ใส่ฟิลเตอร์แต่งภาพ ฟิลเตอร์ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังเป็นไปในทิศทางตรงข้ามกับความจริงด้วยซ้ำ
อย่าจมจ่อมอยู่กับอดีต หยุดกลับไปช้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก
เมื่อเราพูดถึงความทุกข์ ประสบการณ์แบบอัตวิสัยนั้นสำคัญกว่าตัวข้อเท็จจริงของมันเอง
วิเคราะห์เหตุการณ์นั้นอีกครั้งโดยใช้คำถามอันทรงพลังที่จะเปิดมุมมองให้กว้างขึ้นอย่างที่คุณต้องการ
-> เกิดอะไรขึ้น?
-> ทำไมจึงเกิดขึ้น?
-> โต้ตอบไปอย่างไร?
-> ทำไมจึงโต้ตอบไปแบบนั้น?
-> ผลที่ตามมาคืออะไร?
-> คุณคิดว่าชีวิตควรเป็นอย่างไร?
-> คุณได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้?
+ เรื่องที่แล้วไปแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นไม่มีอะไรสูญเปล่า ถ้าดึงเอาบทเรียนที่มีความหมายออกมาได้
คุณเป็นผู้พิพากษาที่แย่ที่สุดที่จะมาตัดสินคดีตัวเอง ดังนั้น จงหยุดตัดสินตัวเองอย่างเด็ดขาด หันมาทำความเข้าใจตัวเองจากความรักและความเมตตา
ทบทวนความหมายที่คุณกำหนดให้กับประสบการณ์ และปรับปรุงให้ทันสถานการณ์ด้วยมุมมองใหม่ ในบริบทใหม่
อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วไป เรียนรู้เสร็จก็ปิดฉากชีวิตช่วงนั้นไปเสีย
เมื่อได้ข้อสรุปบทเรียนมาแล้วต้องให้มั่นใจว่ามันตรงกับความเป็นจริง
บทสรุปและบทเรียนที่ได้รับจะเป็นข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการที่จะใช้ก่อรูปก่อร่างเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ
+ เชื่อมโยงกับความเข้มแข็งทางอารมณ์
ความเข้มแข็งทางอารมณ์
-> ผสานอารมณ์เข้ามาในชีวิต
-> ตีความสภาวะอารมณ์ของตัวเองได้อย่างถูกต้อง
-> ระบุชื่อเรียกของอารมณ์นั้นได้
-> เรียนรู้การระบุสภาวะอารมณ์ของผุ้คนรอบตัว
-> จัดการอารมณ์และแสดงออกได้อย่างเหมาะสม
-> มานะ อดทน มุ่งไปให้ถึงเป้าหมาย
-> บริการ จัดการ สถานการณ์เลวร้าย
-> รักษาสมดุลย์ของความภาคภูมิใจในตัวเอง
-> ไม่พึ่งพิงแรงผลักดันจากภายนอก
-> ยอมรับว่าตนเองคือผู้รับผิดชอบ
-> เลือกทัศนคติเชิงบวก
-> เลือกทางเดินชีวิตตัวเอง
-> หาความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ
-> พัฒนาความสามารถในการสื่อสาร
-> ร่วมมือกับผู้อื่นด้วยความรักความเมตตา
-> บริหารจัดการความขัดแย้ง
-> ดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย และตัดสินใจเลือกทุกอย่างไปให้สอดคล้อง
-> กล้าขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเมื่อจำเป็น
-> สนุกกับทุกสิ่งที่ชีวิตนำมาให้
คุณมีทุกสิ่งทุกอย่างที่จะต้องใช้ในการซ่อมแซมชีวิตตัวเองแล้ว แต่มันจะยังไม่เริ่มทำงานจนกว่าจะได้เชื่อมโยงเข้ากับความเข้มแข็งทางอารมณ์
ความเข้มแข็งทางอารมณ์เป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเอาชนะเรื่องเลวร้ายและเผชิญหน้าสิ่งท้าทาย
ความเข้มแข็งทางอารมณ์แต่ละประการสามารถเรียนรู้ได้ พัฒนาได้
เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเรา ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะความเข้มแข็งทางอารมณ์บางประการของเรายังอ่อนด้อยอยู่
เพื่อจะเอาชนะเรื่องเลวร้ายให้ได้ เราต้องถอยมาตั้งหลักและลงมือทำ
+ ซ่อมแซมสิ่งที่แตกหัก
15 ขั้นตอนเยียวยา
1. อย่าวิ่งหนีเรื่องเลวร้าย
2. อย่าโดดเดี่ยวตัวเอง
3. อย่าสิ้นหวัง
4. เรื่องเลวร้ายนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง
5. ยอมรับว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทาย
6. มองไปในระยะยาว
7. ทุ่มพลังในระยะสั้น
8. เปลี่ยนแปลงแล้วยอมรับ
9. วิเคราะห์เสียงภายใน
10. ส่งผ่านความสงบและสันติสุข
11. ตัดสินใจด้วยตัวเอง
12. มองโลกในแง่ดี
13. เรื่องเลวร้ายในฐานะโอกาสที่จะได้เรียนรู้และจัดการชีวิตตัวเองอีกครั้ง
14. หาที่ทางระบายอารมณ์
15. อย่าเสี่ยงโดยไม่จำเป็นอีก
+ แต่งแต้มตำหนิให้งดงาม
เรื่องสำคัญไม่ใช่เรื่องที่คุณเคยเป็นทุกข์มา แต่เป็นเรื่องที่คุณสามารถเอาชนะมันมาได้ต่างหาก
รอยแผลเป็นเครื่องช่วยเตือนใจว่าเราเข้มแข็งขึ้นแล้ว
คุณสามารถเรียนรู้จากแผลเป็นทุกรอย แล้วแปรมันเป็นบทเรียนเพื่อสอนคนอื่นที่กำลังเป็นทุกข์เหมือนเราได้
แปรความเจ็บปวดเป็นศิลปะ
สร้างความเป็นจริงใหม่ของตัวเองขึ้นมา
อย่าละอาย ไม่ต้องคอยปกปิดรอยแผลเป็นของคุณ
+ KINTSUGI ศิลปะในการซ่อมแซมชีวิต
อย่ารอไปจนถึงจุดต่ำสุด
อย่าจมจ่อมอยู่กับความเจ็บปวด
คิดให้ต่าง
+ กอบเก็บจากเศษซาก
อิคิไกของคุณคืออะไร?
ค้นหาอิคิไก
ก้มเก็บชิ้นส่วนทั้งหมดขึ้นมาเพื่อที่เราจะได้ทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกอย่างไร คิดอย่างไร นี่คือก้าวแรกเพื่อมองสถานการณ์อย่างชัดเจน ทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตใจที่เกิดขึ้นกับคุณอันเนื่องมาจากเหตุการณ์นั้น
การจะก้มลงไปเก็บนั้น เราไม่จำเป็นต้องรอจนกระทั้งทุกข์จนทนไม่ได้ ถ้าคุณอยากรู้สึกดีขึ้นทันที ก็ต้องลงมือทำบางสิ่งบางอย่างทันที
เพียงแค่ข้อเท็จจริงที่ว่าชีวิตคุณจะดีขึ้นในวันข้างหน้าก็เป็นเหตุผลที่ดีพอแล้วสำหรับการซ่อมแซมชีวิตในวันนี้
การจบปัญหาหนึ่งไม่ได้หมายความว่าความทุกข์ของคุณจะจบลงด้วย ดังนั้น เราต้องจัดการปัญหาอย่างต่อเนื่อง
+ วิเคราะห์สถานการณ์
วิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ โดยไม่ใส่ฟิลเตอร์แต่งภาพ ฟิลเตอร์ไม่ได้ช่วยอะไร แถมยังเป็นไปในทิศทางตรงข้ามกับความจริงด้วยซ้ำ
อย่าจมจ่อมอยู่กับอดีต หยุดกลับไปช้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก
เมื่อเราพูดถึงความทุกข์ ประสบการณ์แบบอัตวิสัยนั้นสำคัญกว่าตัวข้อเท็จจริงของมันเอง
วิเคราะห์เหตุการณ์นั้นอีกครั้งโดยใช้คำถามอันทรงพลังที่จะเปิดมุมมองให้กว้างขึ้นอย่างที่คุณต้องการ
-> เกิดอะไรขึ้น?
-> ทำไมจึงเกิดขึ้น?
-> โต้ตอบไปอย่างไร?
-> ทำไมจึงโต้ตอบไปแบบนั้น?
-> ผลที่ตามมาคืออะไร?
-> คุณคิดว่าชีวิตควรเป็นอย่างไร?
-> คุณได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้?
+ เรื่องที่แล้วไปแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นไม่มีอะไรสูญเปล่า ถ้าดึงเอาบทเรียนที่มีความหมายออกมาได้
คุณเป็นผู้พิพากษาที่แย่ที่สุดที่จะมาตัดสินคดีตัวเอง ดังนั้น จงหยุดตัดสินตัวเองอย่างเด็ดขาด หันมาทำความเข้าใจตัวเองจากความรักและความเมตตา
ทบทวนความหมายที่คุณกำหนดให้กับประสบการณ์ และปรับปรุงให้ทันสถานการณ์ด้วยมุมมองใหม่ ในบริบทใหม่
อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้แล้วไป เรียนรู้เสร็จก็ปิดฉากชีวิตช่วงนั้นไปเสีย
เมื่อได้ข้อสรุปบทเรียนมาแล้วต้องให้มั่นใจว่ามันตรงกับความเป็นจริง
บทสรุปและบทเรียนที่ได้รับจะเป็นข้อเท็จจริงอย่างเป็นทางการที่จะใช้ก่อรูปก่อร่างเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ
+ เชื่อมโยงกับความเข้มแข็งทางอารมณ์
ความเข้มแข็งทางอารมณ์
-> ผสานอารมณ์เข้ามาในชีวิต
-> ตีความสภาวะอารมณ์ของตัวเองได้อย่างถูกต้อง
-> ระบุชื่อเรียกของอารมณ์นั้นได้
-> เรียนรู้การระบุสภาวะอารมณ์ของผุ้คนรอบตัว
-> จัดการอารมณ์และแสดงออกได้อย่างเหมาะสม
-> มานะ อดทน มุ่งไปให้ถึงเป้าหมาย
-> บริการ จัดการ สถานการณ์เลวร้าย
-> รักษาสมดุลย์ของความภาคภูมิใจในตัวเอง
-> ไม่พึ่งพิงแรงผลักดันจากภายนอก
-> ยอมรับว่าตนเองคือผู้รับผิดชอบ
-> เลือกทัศนคติเชิงบวก
-> เลือกทางเดินชีวิตตัวเอง
-> หาความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ
-> พัฒนาความสามารถในการสื่อสาร
-> ร่วมมือกับผู้อื่นด้วยความรักความเมตตา
-> บริหารจัดการความขัดแย้ง
-> ดำเนินชีวิตอย่างมีเป้าหมาย และตัดสินใจเลือกทุกอย่างไปให้สอดคล้อง
-> กล้าขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเมื่อจำเป็น
-> สนุกกับทุกสิ่งที่ชีวิตนำมาให้
คุณมีทุกสิ่งทุกอย่างที่จะต้องใช้ในการซ่อมแซมชีวิตตัวเองแล้ว แต่มันจะยังไม่เริ่มทำงานจนกว่าจะได้เชื่อมโยงเข้ากับความเข้มแข็งทางอารมณ์
ความเข้มแข็งทางอารมณ์เป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเอาชนะเรื่องเลวร้ายและเผชิญหน้าสิ่งท้าทาย
ความเข้มแข็งทางอารมณ์แต่ละประการสามารถเรียนรู้ได้ พัฒนาได้
เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเรา ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะความเข้มแข็งทางอารมณ์บางประการของเรายังอ่อนด้อยอยู่
เพื่อจะเอาชนะเรื่องเลวร้ายให้ได้ เราต้องถอยมาตั้งหลักและลงมือทำ
+ ซ่อมแซมสิ่งที่แตกหัก
15 ขั้นตอนเยียวยา
1. อย่าวิ่งหนีเรื่องเลวร้าย
2. อย่าโดดเดี่ยวตัวเอง
3. อย่าสิ้นหวัง
4. เรื่องเลวร้ายนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง
5. ยอมรับว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทาย
6. มองไปในระยะยาว
7. ทุ่มพลังในระยะสั้น
8. เปลี่ยนแปลงแล้วยอมรับ
9. วิเคราะห์เสียงภายใน
10. ส่งผ่านความสงบและสันติสุข
11. ตัดสินใจด้วยตัวเอง
12. มองโลกในแง่ดี
13. เรื่องเลวร้ายในฐานะโอกาสที่จะได้เรียนรู้และจัดการชีวิตตัวเองอีกครั้ง
14. หาที่ทางระบายอารมณ์
15. อย่าเสี่ยงโดยไม่จำเป็นอีก
+ แต่งแต้มตำหนิให้งดงาม
เรื่องสำคัญไม่ใช่เรื่องที่คุณเคยเป็นทุกข์มา แต่เป็นเรื่องที่คุณสามารถเอาชนะมันมาได้ต่างหาก
รอยแผลเป็นเครื่องช่วยเตือนใจว่าเราเข้มแข็งขึ้นแล้ว
คุณสามารถเรียนรู้จากแผลเป็นทุกรอย แล้วแปรมันเป็นบทเรียนเพื่อสอนคนอื่นที่กำลังเป็นทุกข์เหมือนเราได้
แปรความเจ็บปวดเป็นศิลปะ
สร้างความเป็นจริงใหม่ของตัวเองขึ้นมา
อย่าละอาย ไม่ต้องคอยปกปิดรอยแผลเป็นของคุณ
